"เกาลัด" หรือเชสนัท (Chestnut) นั้นเป็นพืชประเภทถั่วที่มีคาร์โบไฮเดรตหรือแป้งเป็นส่วนประกอบหลัก ให้ไขมันต่ำ และอุดมด้วยวิตามินบี มีแร่ธาตุโพแทสเซียม และกรดโฟลิก อีกทั้งสรรพคุณของลูกเกาลัดนั้นก็คือสามารถช่วยบำรุงอวัยวะในร่างกาย ได้แก่ บำรุงไต เสริมสร้างกล้ามเนื้อกระเพาะอาหาร ช่วยฟอกเลือด ช่วยบรรเทาอาการช้ำใน และช่วยเพิ่มพลัง ทำให้กล้ามเนื้อมีเรี่ยวมีแรงมากขึ้น รวมทั้งช่วยลดการปวดปัสสาวะบ่อยๆ จึงถือว่าเป็นอาหารที่เหมาะสำหรับผู้สูงอายุ
ส่วนในตำราจีนนั้น มีการพูดถึงคุณค่าของเกาลัดมาเป็นพันๆปีแล้วว่า เป็นอาหารธาตุอุ่น ช่วยบำรุงไต บำรุงเลือด และช่วยลดอาการปวดข้อได้ด้วย จึงถือเป็นของกินเล่นที่มีคุณค่ามากอีกอย่างหนึ่ง แม้ในเมืองไทยจะมีราคาสูงไปสักหน่อยก็ตาม
เกาลัดคั่วในเม็ดทราย
เกาลัดคั่วที่เห็นกันมาก ๆ มักจะมีเม็ดสีดำเล็ก ๆ คั่วรวมอยู่ด้วย บางคนอาจจะคิดว่าเป็นเมล็ดกาแฟจริง ๆ แต่ความจริงแล้วไม่ใช่
เม็ดสีดำเล็ก ๆ นั้น คือ เม็ดทรายขนาดประมาณ 3-5 มิลลิเมตร เป็นทรายที่ใช้ในการก่อสร้าง หรือที่เห็นตามตู้ปลาสีออกน้ำตาล พ่อค้าหรือแม่ค้าจะนำเอาทรายแห้งใส่ลงไปในกระบะใบใหญ่ พอทรายร้อนระอุได้ที่จนเป็นสีดำ ก็จะนำเอาลูกเกาลัดใส่ลงไป บางร้านเติมน้ำตาลทรายคั่วรวมกันให้ได้รสหวาน บางร้านเพิ่มกลิ่นหอมด้วยการใส่เมล็ดกาแฟคั่วรวมไปเหตุผลที่ต้องใช้เม็ดทรายเพราะเม็ดทรายช่วยเก็บความร้อนไว้ได้นาน ซึ่งดีสำหรับการทำให้เกาลัดสุกถึงเนื้อผลด้านใน และหากสังเกตกันดี ๆ เนื้อผลของเกาลัดนั้นจะไม่ติดกับเปลือก
ดังนั้นการใช้ทรายที่ร้อนระอุตลอดเวลาจะช่วยให้เนื้อเกาลัด ค่อย ๆ สุก แต่ต้องหมั่นคนเพื่อไม่ให้เกาลัดไหม้ ซึ่งจะคั่วกันนาน 30-40 นาที เม็ดทรายนั้นใช้ได้นานกว่า 1 เดือน เรียกว่าคั่วเกาลัดได้หลายกระทะ จนทรายที่เป็นเม็ดเริ่มป่นเป็นผง แล้วจึงจะเปลี่ยนไปใช้เม็ดทรายชุดใหม่ต่อไปนี้ก็เข้าใจใหม่ว่า เกาลัดนั้นคั่วในทราย ไม่ใช่เมล็ดกาแฟอย่างที่เข้าใจกัน.
อ้างอิง http://variety.teenee.com/foodforbrain/2764.html
เม็ดสีดำเล็ก ๆ นั้น คือ เม็ดทรายขนาดประมาณ 3-5 มิลลิเมตร เป็นทรายที่ใช้ในการก่อสร้าง หรือที่เห็นตามตู้ปลาสีออกน้ำตาล พ่อค้าหรือแม่ค้าจะนำเอาทรายแห้งใส่ลงไปในกระบะใบใหญ่ พอทรายร้อนระอุได้ที่จนเป็นสีดำ ก็จะนำเอาลูกเกาลัดใส่ลงไป บางร้านเติมน้ำตาลทรายคั่วรวมกันให้ได้รสหวาน บางร้านเพิ่มกลิ่นหอมด้วยการใส่เมล็ดกาแฟคั่วรวมไปเหตุผลที่ต้องใช้เม็ดทรายเพราะเม็ดทรายช่วยเก็บความร้อนไว้ได้นาน ซึ่งดีสำหรับการทำให้เกาลัดสุกถึงเนื้อผลด้านใน และหากสังเกตกันดี ๆ เนื้อผลของเกาลัดนั้นจะไม่ติดกับเปลือก
ดังนั้นการใช้ทรายที่ร้อนระอุตลอดเวลาจะช่วยให้เนื้อเกาลัด ค่อย ๆ สุก แต่ต้องหมั่นคนเพื่อไม่ให้เกาลัดไหม้ ซึ่งจะคั่วกันนาน 30-40 นาที เม็ดทรายนั้นใช้ได้นานกว่า 1 เดือน เรียกว่าคั่วเกาลัดได้หลายกระทะ จนทรายที่เป็นเม็ดเริ่มป่นเป็นผง แล้วจึงจะเปลี่ยนไปใช้เม็ดทรายชุดใหม่ต่อไปนี้ก็เข้าใจใหม่ว่า เกาลัดนั้นคั่วในทราย ไม่ใช่เมล็ดกาแฟอย่างที่เข้าใจกัน.
อ้างอิง http://variety.teenee.com/foodforbrain/2764.html
ดีขนาดนี้เลยเหรอ
ตอบลบชอบกินมาก
แต่ราคาสูงไปหน่อย
ขีดละ 30 บาท
ที่เยาราช โลละประมาณ 100-120
ตอบลบที่ Carrefour ทุกสาขา
ตอบลบกก.ละ 260 บาท
ซื้อกินที่เยาวราช อร่อยดี มีประโยชน์ ผมว่าระบบขับถ่ายดี แต่ต้องแกะเปลือกยากไปนิด
ตอบลบที่คาร์ฟูร์ขึ้นราคาแล้วแระ เซ้งมากมาก
ตอบลบที่ Carrefour ลพบุรี
ตอบลบกก.ละ 300 บาท
อร่อยจิงๆๆๆค่า แถมมีประโยชน์ด้วย คุ้มคร้า
ตอบลบไปที่ยวที่แม่ฮ่องสอน เลยซื้อมา อร่อยดี
ตอบลบโชคดีมากเลยอยู่เยรมันมีเยอะชว่งเดือน10,11
ตอบลบ